แน่ใจแล้วหรือว่าคุณรู้จัก แปรงแต่งหน้า คู่ใจดีพอ เพราะไม่ใช่แค่เครื่องสำอางเท่านั้นที่สำคัญ แต่การเลือกแปรงอย่างใส่ใจจะช่วยดับเบิ้ลผลลัพธ์ความงามขึ้นมาได้อีกมากทีเดียว |
ชนิดของขนแปรง
1. ขนแปรงธรรมชาติ (ขนสัตว์) ขนสัตว์ที่นิยม ได้แก่ กระรอก ม้า เซเบิล โคลินสกี แพะ วัว และหมู อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นการทารุณสัตว์ เพราะช่างทำแปรงจะเลือกใช้ขนที่ผลัดตามธรรมชาติและใช้เฉพาะปลายขนเพื่อให้ ได้ขนแปรงที่นุ่มนวลแบบสุดๆ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแปรงเหล่านี้ถึงได้แพงนัก แต่รับรองว่าใช้แล้วไม่ผิดหวัง เพราะขนสัตว์จะดูดเครื่องสำอางประเภทฝุ่นได้ดีเป็นพิเศษ
2. ขนแปรงสังเคราะห์ สำหรับสาวที่มีงบไม่มากนัก ลองเลือกแปรงที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์อย่างเทคลอนและไนลอน ซึ่งมีความนุ่มใกล้เคียงขนสัตว์มากที่สุด แต่ถึงอย่างไรการสปริงตัวให้ขนแปรงคืนรูปอาจสู้ขนสัตว์ไม่ได้ เห็นได้ชัดจากขนแปรงที่จะมีการหักงอเสียรูปได้ง่ายกว่า
ความแตกต่างระหว่างแปรงขนสัตว์ กับ แปรงขนสังเคราะห์
- ขนสัตว์จะ blend ได้ดีกว่าขนสังเคราะห์ และ เครื่องสำอางจะติดมาได้มากกว่า เพราะว่าขนธรรมชาติจะมีเกล็ดของผมซึ่งจะทำให้ตัวเครื่องสำอางติดมากกว่า
- ขนแปรงสังเคราะห์เหมาะกับเครื่องสำอางที่เป็นครีม เช่น รองพื้นครีม/น้ำ ลิปสติก บลัชที่เป็นครีม ส่วนขนแปรงขนสัตว์จริงๆเอาไว้ใช้กับเครื่องสำอางแห้งๆ และใช้ blend ได้ดีกว่า
- ขนแปรงที่นิ่มอย่างเดียว ไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เช่นแปรงขนสังเคราะห์บางยี่ห้อนิ่มดี แต่เอาเข้าจริงๆ blend ได้ไม่ดีเท่าขนแปรงขนสัคว์ ขนแปรงควรจะอยู่ตัวกำลังดี ไม่นิ่มไป ไม่แข็งไป (ตามความรู้สึกของผู้ใช้.....ชอบนิ่มแบบไหนเอาแบบนั้น อย่าซื้อเพียงเพราะคนอื่นบอกว่านิ่ม)
วิธีเลือกแปรง ลองปัดขนแปรงบนหลังมือ (ถ้าเป็นบนใบหน้าได้ก็จะดีมาก) เพื่อทดสอบความนุ่มของขนแปรง แปรงที่ดีควรมีด้ามจับขนาดเหมาะมือ ไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป ขนแปรงควรมีรูปทรงที่สวยงาม ไม่หักงอ และไม่หลุดจากตัวยึดแปรงง่ายๆ
- แปรงสำหรับบลัช (blush brush) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นขนสัตว์แท้ๆ เพราะว่าต้องเอาไว้เบลนสีให้เนียนๆ และ เพราะว่าขนสัคว์แท้ๆจะทำให้กำหนดปริมาณบลัชได้ดี ไม่มากไปทำให้หน้าแดงต้องมาเสียเวลาแก้ และไม่น้อยไปทำให้ต้องทาหลายๆครั้ง แปรงขนสังเคราะห์อาจจะทำให้ต้องทาหลายๆรอบเพราะว่าขนแปรงไม่ค่อยติดสี ซึ่งอาจจะรบกวนผิวหน้ามากไปได้เพราะว่ามันขูดกับผิวหน้าหลายรอบเกินจำเป็น ผิวอาจจะระคายเคืองและเกิดสิวผดตามมา รูปร่างขนแปรงควรหัวมนๆ ไม่กว้างเกินไป
- แปรงสำหรับอายแชโด้ (eye shader) มีสองแบบหลักๆ หัวมน กับหัวตัดเฉียง ขนแปรง ควรเป็นขนสัคว์ แป้งหัวมน ลักษณะขนแปรงแบนและหัวมน (ที่จริงมีแบบขนเต็มกลมๆอีก แต่ว่าไม่จำเป็นมากนัก พวกขน
-แปรงกลมเอาไว้ทาตรงชั้นของตาเล่นแสงเงา) แปรงที่จำเป็นก็คือหัวแบนมน ซึ่งมีขนาดเล็กและใหญ่ เอาแบบใหญ่เอาไว้ทาทั่วตาและเอาไว้เบลน ส่วนแบบเล็กเอาไว้ทาสีเฉพาะที่
-แปรงทาตาแบบหัวตัดเฉียง ขนสัตว์แท้ เอาไว้ทาตรงชั้นตา หรือว่าเอาไว้กรีดเส้นอายแชโด้ให้คมๆ รำเพยก็ยังเอาแปรงอันนี้มาทาคิ้วด้วยสำหรับปัดคิ้วได้ด้วยค่ะ
-บางคนชอบใช้ที่ทาอายแชโด้แบบเป็นฟองน้ำ ก็ใช้แบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่ว่าควรมี eye shadow brush ที่เป็นขนสัตว์ไว้ด้วยเพื่อ
เอาไว้เบลนให้มันเข้ากัน
-แปรงปัดคิ้ว และแปรงแปรงคิ้ว จะเอาขนสังเคราะห์หรือขนสัตว์แท้ๆก็แล้วแต่กำลังเงินนะคะ ส่วนอีกด้านที่เป็นหวีน่ะ นอกจากเอาไว้หวีขนคิ้วให้เป็นระเบียบได้รูปแล้วก็ยังเอาไว้แยกขนตาเวลาที่ทา มาสคาร่าแล้วด้วยค่ะ
-แปรงทาลิปสติก ควรเป็นขนสังเคราะห์เท่านั้น เพราะว่าต้องล้างทำความสะอาดบ่อยหน่อย และลิปสติกมันเป็นครีมๆ ใช้ขนแท้แล้วแปรงจะเสียได้ง่าย
ประเภทของแปรง
1. Powder Brush หมดสมัยทาแป้งหนาเตอะแล้ว นาทีนี้เมคอัพอาร์ติสท์เขาใช้แปรงพุ่มกลมขนาดใหญ่ลงแป้งฝุ่นทั่วใบหน้าให้ดู เบาบางเป็นธรรมชาติ มีทั้งแบบด้ามยาว (Face Brush) และด้ามสั้น (KabukiBrush) เลือกได้ตามถนัด
How to: เทแป้งฝุ่นใส่บนฝาเล็กน้อย แล้วใช้ส่วนปลายของขนแปรงแตะวนเป็นวงกลมก่อนนำมาปัดวนเป็นวงกลมทั่วใบหน้า
2. Blusher Brush / Cheek Brush เลิกใช้แปรงอันจิ๋วที่แถมมาในตลับ แล้วหันมาใช้แปรงปัดแก้มที่มีลักษณะค่อนข้างแบนและมีปลายกลมมนแทนดีกว่า ถ้าต้องการให้สีของบลัชออนกระจายตัวเป็นธรรมชาติ ควรเลือกแปรงที่มีขนาดใหญ่พอดีกับแก้ม เพราะถ้าเล็กเกินไปอาจทำให้เกลี่ยสีได้ไม่ทั่วจนแลดูเป็นจ้ำได้
How to: ใช้หน้าแปรง (ด้านแบน) แตะบลัชออน จากนั้นวางแปรงในแนวนอนแล้วปัดเฉียงขึ้น แต่ถ้าอยากให้ดูมีเลือดฝาดให้ตั้งแปรงขึ้น (ด้ามแปรงชี้ลงพื้น) แล้วแตะแปรงบนโหนกแก้มเบาๆ
3. Angle Contour Brush มีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับ แปรงปัดแก้มต่างกันที่ปลายจะมีหน้าตัดเฉียง แปรงแบบนี้เหมาะกับมือโปรมากกว่าะใช้ในการเฉดดิ้งและไฮไลท์แก้ไขรูปหน้าได้ ดี
How to: ใช้หน้าตัดของแปรงแตะเฉดดิ้งหรือลงไฮไลท์ตามแนวกระดูกต่างๆ
4. Foundation Brush สาวๆที่ชอบลงรองพื้นด้วยนิ้ว เปลี่ยนมาใช้แปรง เถอะ แปรงที่มีลักษณะแบนและปลายมนจะช่วยเกลี่ยครีมรองพื้นให้ดูเบาบางเสมอกันทั้ง ใบหน้า แถมยังช่วยประหยัดครีมรองพื้นด้วย
How to: เทครีมรองพื้นบนหลังมือ แล้วใช้หน้าแปรง (ด้านแบน) แตะครีมรองพื้นมาเกลี่ยให้กระจายออกไปตามกรอบหน้าก่อนใช้ด้านปลายมนตกแต่ง บริเวณร่องปีกจมูกปาก และใต้ตา
5. Eye Brush แปรงทาอายแชโดว์มีทั้งชนิดกลมและแบน โดยชนิดแบนจะใช้เกลี่ยเป็นบริเวณกว้าง ส่วนชนิดกลมจะใช้เน้นสีเฉพาะจุด เช่น ชิดขอบตา ชั้นพับตา
How to: ใช้แปรงแบนไล้สีให้ทั่ว เปลือกตา จากนั้นเน้นน้ำหนักสีหรือไล่สีด้วยแปรงกลม หรือถ้าอยากแต้มสีที่ขอบตาล่างและหัวตาก็ให้ใช้ปลายแปรงกลมเช่นกัน
6. Liner Brush ฮิตกรีดอายไลเนอร์ขนาดนี้คงต้องมีไว้สักอัน ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าชอบการวาดเส้นขอบตาแบบไหน ถ้าชอบเส้นเรียวเล็กให้เลือกเป็นแบบหัวกลมปลายแหลม แต่ถ้าอยากได้เส้นใหญ่หรือแต่งตาแนว สโมกกี้อายส์ให้ใช้แบบแบนปลายตัดจะดีกว่า How to: สำหรับแปรงกลม แต้มอายไลเนอร์ชนิดน้ำหรือเจล แล้วค่อยๆ ลากเส้นให้ชิดขอบตาเหมือนการเขียนดินสอส่วนแปรงแบน ให้แต้มอายไลเนอร์แล้วใช้ปลายตัดกดให้เส้นต่อๆ กันไป หรือจะลากเป็นเส้นก็ง่ายเหมือนกัน
7. Lip Brush สารพัดประโยชน์ ใช้ลงสีให้ทั่วริมฝีปาก ตัดเส้นขอบปากให้คมกริบใช้ผสมสีลิปสติก และยังใช้แต้มลิปสติกที่ใกล้หมดได้อีกด้วย
How to: ใช้ด้านข้างของพู่กันตัดเส้นขอบปากก่อนลงสีให้ทั่วเรียวปาก แล้วจะใช้สีอื่นทาทับอีกครั้งเพื่อเป็นการผสมสีแบบง่ายๆ ก็ได้
8. Brow Brush ควรเลือกที่มีลักษณะเรียวเล็กและเฉียงเล็กน้อย
How to: หลังจากวาดคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วแล้ว ให้นำแปรงมาปัดเส้นคิ้วเพื่อให้แลดูนุ่มนวลเหมือนคิ้วจริง 9. Other Brush ยัง มีแปรงหน้าตาไม่คุ้นเคยอีกมายมายสำหรับใช้ประโยชน์เฉพาะด้านแบบมืออาชีพ เช่น แปรงรูปพัดใช้สำหรับเกลี่ยแป้งต่างๆ ให้ดูบางเบา แปรงรูปครึ่งวงกลมสำหรับปัดแป้งฝุ่นให้กระจายทั่วทั้งใบหน้า
วิธีทำความสะอาดแปรง จุ่มแปรงลงในน้ำอุ่นให้พอเปียก ระวังอย่าให้น้ำไหลเข้าบริเวณด้ามจับ เพราะจะทำให้กาวที่ยึดขนแปรงเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและหลุดร่วงได้ง่าย ใชมพูสระผมเด็กค่อยๆ ลูบขนแปรงเบาๆ ตามทิศทางของเส้นขน ตั้งแปรงแนวดิ่งให้หัวแปรงทิ่มลง แล้วเปิดให้น้ำไหลผ่านจนสะอาด จากนั้นซับแปรงบนผ้าขนหนูเบาๆ เพื่อจัดรูปทรงแปรงให้อยู่ในสภาพเดิม แล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ (ห้ามตากแดด) โดยวางพาดกับโต๊ะ ให้ขนแปรงยื่นพ้นขอบโต๊ะออกมา ห้ามหงายแปรงให้แห้งในถ้วยเด็ดขาดเพราะน้ำจะไหลเข้าบริเวณด้ามจับ และถ้าปล่อยให้แห้งโดยการทิ่มขนแปรงลงในถ้วยก็จะทำให้ขนแปรงบานเสียรูปทรง เช่นกัน
Tips - ในเวลาเร่งด่วนอาจใช้น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าโดยเฉพาะเช็ดขนแปรงก่อน การใช้งานได้ทันที แต่ทางที่ดียอมเสียเวลาล้างตามขั้นตอนจะดีที่สุด - ควรทำความสะอาดแปรงและอุปกรณ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง
- หลังจากใช้แปรงทุกครั้ง ให้นำทิชชูวางบนฝ่ามือ แล้วเคาะส่วนที่ยึดแปรงบนสันมือเบาๆ เพื่อให้ฝุ่นเครื่องสำอางหลุดออก หรือเช็ดครีมเครื่องสำอางด้วยทิชชูก่อนเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าหรือซอง
- วิธีเก็บรักษาแปรงและพู่กันที่ถูกต้องคือ การเก็บไว้ในกระเป๋าที่ออกแบบมาสำหรับเก็บแปรงโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง แสงแดด และที่สำคัญคือช่วยให้แปรงใช้งานได้นาน ไม่เสียรูปทรง
ที่มา sudsapda